สัญญาณเตือนแรกของการเป็นมะเร็ง: รู้ก่อน ปลอดภัยกว่า
การตรวจพบมะเร็งในระยะเริ่มต้นสามารถเพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณสามารถสังเกตเห็นสัญญาณเตือนแรกของโรคมะเร็งที่อาจเกิดขึ้นในร่างกายของคุณ ในบทความนี้ เราจะพาไปดูสัญญาณเตือนทั่วไปและเฉพาะสำหรับมะเร็งประเภทต่าง ๆ ที่ควรมีความสนใจเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น
สัญญาณเตือนสามัญ
ก้อนเนื้อหรือการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ
- คลำพบก้อนเนื้อใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยเฉพาะที่เต้านม, รักแร้, หรือส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย
- การมีแผลหรือการเปลี่ยนแปลงผิวหนังที่ไม่หายไปภายใน 1-2 สัปดาห์
การเปลี่ยนแปลงของต่อมน้ำเหลือง
- ต่อมน้ำเหลืองขยายใหญ่ขึ้นอย่างไม่ปกติและไม่มีอาการเจ็บ
การเปลี่ยนแปลงของระบบย่อยอาหารและระบบอื่น ๆ
- มีเลือดออกจากช่องปาก, ไอเรื้อรัง, ไอเป็นเลือด, อาเจียนเป็นเลือด, ปัสสาวะเป็นเลือด, หรืออุจจาระเป็นเลือด
- อาการท้องผูกสลับท้องเสีย, ท้องอืด, ท้องเฟ้อ, หรืออาการแน่นอึดอัดท้องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
อาการทั่วไป
- น้ำหนักลดลงมากใน 6 เดือน (ตั้งแต่ 10% ขึ้นไปของน้ำหนักตัวเดิม)
- มีไข้ต่ำ ๆ หรือไข้สูงบ่อย ๆ ที่หาสาเหตุไม่ได้
- ปวดศีรษะเรื้อรัง, แขนหรือขาอ่อนแรง, หรือประสบกับอาการชักโดยเฉพาะที่ไม่เคยประสบมาก่อน
สัญญาณเตือนสำหรับมะเร็งเต้านม
การเปลี่ยนแปลงของเต้านม
- คลำพบก้อนเนื้อหรือการเปลี่ยนแปลงในเต้านม เช่น การโต, การเปลี่ยนรูป, หรือการเปลี่ยนสีของผิวหนังบริเวณเต้านม
- การมีน้ำเหลืองหรือของเหลวไหลออกจากหัวนมเป็นสีคล้ายเลือด
- ผิวหนังรอบ ๆ เต้านมบวมแดงหรือมีอาการเจ็บเต้านมโดยไม่เกี่ยวกับรอบเดือน
- ผื่นคันหรือแผลตกสะเก็ดแข็งบริเวณหัวนมหรือเต้านม
สัญญาณเตือนสำหรับมะเร็งปอด
อาการทางเดินหายใจ
- ไอเรื้อรัง, ไอมีเสมหะปนเลือด, เหนื่อยง่าย, หายใจลำบาก, เจ็บแน่นหน้าอก, หรือมีเสียงหายใจผิดปกติ
- เบื่ออาหารหรือน้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
การป้องกันและตรวจวินิจฉัย
การตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอและการสังเกตความผิดปกติในร่างกายเป็นกุญแจสำคัญในการตรวจพบมะเร็งในระยะเริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็นการตรวจเต้านมด้วยตนเองทุกเดือนหลังจากรอบเดือนหรือการไปตรวจสุขภาพอื่น ๆ อย่างสม่ำเสมอ การทำเช่นนี้จะช่วยให้คุณสามารถรักษาโรคมะเร็งได้ทันท่วงทีและเพิ่มโอกาสในการหายขาดอย่างมีประสิทธิภาพ
สรุป
การทราบถึงสัญญาณเตือนเหล่านี้สามารถช่วยคุณในการดูแลสุขภาพของตนเองและลดความเสี่ยงจากมะเร็ง หากคุณพบอาการหรือความผิดปกติเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์ทันทีเพื่อการตรวจวินิจฉัยที่ถูกต้อง และการรักษาที่เหมาะสมต่อไป