ผู้ป่วยที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ควรตรวจคัดกรองบ่อยแค่ไหน?

ผู้ป่วยที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ควรตรวจคัดกรองบ่อยแค่ไหน?

การตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ การตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยลดความเสี่ยงและตรวจพบโรคในระยะต้น ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการรักษาและป้องกันมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ความถี่ในการตรวจ

สำหรับผู้ที่มีญาติลำดับที่ 1 (บิดา, มารดา, พี่, น้อง) ป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ คำแนะนำในการตรวจคัดกรองคือ:

  • เริ่มต้นตรวจตั้งแต่อายุ 40 ปี: ควรเริ่มการตรวจส่องกล้องลำไส้ใหญ่เมื่ออายุครบ 40 ปี หรือตั้งแต่ 10 ปี ก่อนที่จะมีญาติได้รับการวินิจฉัยเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ – ตรวจซ้ำทุก 5 ปี: หลังจากการตรวจครั้งแรก หากผลเป็นปกติ ผู้ควรมีการตรวจซ้ำทุก 5 ปี แต่ถ้าผลตรวจออกมาไม่ปกติ หรือมีความเสี่ยงสูงต่อมะเร็ง อาจจะต้องตรวจบ่อยกว่าทุก 5 ปีตามคำแนะนำของแพทย์

การตรวจคัดกรองที่แนะนำ

การตรวจคัดกรองมีหลายวิธีที่สามารถเลือกใช้ได้ ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่ผู้ป่วยมี:

  • การตรวจอุจจาระหาเลือดออกแฝง: เป็นวิธีที่สะดวกแต่ไม่แนะนำสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง – การส่องกล้องลำไส้ใหญ่: เป็นวิธีที่มีความไวสูงและแนะนำให้ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ใช้ – CT Colonography: แม้ว่าจะมีความไวสูง แต่ไม่ใช่วิธีหลักสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง ต้องใช้การตรวจเพิ่มเติมหากพบติ่งเนื้อ

สรุป

การตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ถือเป็นการป้องกันที่สำคัญสำหรับผู้ที่มีประวัติครอบครัว ดังนั้นจึงควรเริ่มตรวจอย่างมีระเบียบและเป็นประจำ เพื่อให้มั่นใจว่าหากมีการเกิดโรคอันตรายนี้ จะสามารถตรวจพบได้ตั้งแต่ระยะแรก ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการรักษาและลดอัตราการเกิดโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ