การรับประทานอาหารเสริมสำหรับผู้ป่วยมะเร็งดีหรือไม่?

การรับประทานอาหารเสริมสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง: ดีหรือไม่?

การที่ผู้ป่วยมะเร็งรับประทานอาหารเสริมเป็นหัวข้อที่มีการพูดถึงและถกเถียงกันจำนวนมากในวงการแพทย์และการดูแลสุขภาพ แม้ว่าความต้องการสารอาหารจะเพิ่มขึ้นในระหว่างการรักษา แต่การเลือกอาหารเสริมควรมีการพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนความแข็งแรงหรือป้องกันผลข้างเคียงจากการรักษา ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกเกี่ยวกับข้อดีและข้อจำกัดของอาหารเสริมสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง

ประโยชน์และข้อจำกัดของอาหารเสริม

การรับประทานอาหารที่สมดุล – ผู้ป่วยมะเร็งควรเน้นการรับประทานอาหารที่หลากหลายและสมดุลเพื่อให้ได้รับ: – พลังงาน – โปรตีน – วิตามิน และเกลือแร่ – การรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงและเพิ่มภูมิต้านทานต่อการเจ็บป่วย

อาหารเสริมและวิตามิน – ปัจจุบัน ยังไม่มีการศึกษาหรือข้อมูลที่ยืนยันว่าอาหารเสริมหรือวิตามินสามารถรักษาโรคมะเร็งหรือป้องกันไม่ให้กลับมาใหม่ได้ – หากผู้ป่วยต้องการรับประทานวิตามินเสริม ควรปรึกษาแพทย์เพื่อได้รับคำแนะนำที่เหมาะสม

ป้องกันภาวะเม็ดเลือดต่ำ – การได้รับพลังงานและโปรตีนอย่างเพียงพอเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันภาวะเม็ดเลือดต่ำ – เมื่อผู้ป่วยมะเร็งได้รับยาเคมีบำบัด การบริโภคอาหารที่มี: – ธาตุเหล็ก – วิตามินซี – วิตามินเอ จะช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็กได้ดียิ่งขึ้น

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ – ตามคำแนะนำจาก จุดมุ่งหมายของ ESPEN ในปี 2017 ผู้ป่วยมะเร็งควรได้รับโปรตีนในปริมาณ 1-1.5 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม – ความต้องการโปรตีนอาจเพิ่มขึ้นในผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดหรือการรักษาเคมีบำบัด

สรุป – การรับประทานอาหารที่สมดุลและหลากหลายเป็นหลักการสำคัญในการฟื้นฟูผู้ป่วยมะเร็ง – อาหารเสริมและวิตามินไม่ได้รับการยืนยันว่าสามารถรักษาหรือป้องกันโรคมะเร็ง – ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานอาหารเสริมหรือวิตามินใดๆ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับการรักษา – การบริโภคอาหารที่มีพลังงานและโปรตีนสูงเป็นปัจจัยที่สำคัญในการฟื้นฟูร่างกายและป้องกันภาวะเม็ดเลือดต่ำ

การตัดสินใจในการรับประทานอาหารเสริมสำหรับผู้ป่วยมะเร็งจึงควรทำอย่างรอบคอบและควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือนักกำหนดอาหาร เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการรักษาและการฟื้นฟูสุขภาพนี้