การรักษามะเร็งผิวหนังด้วยการผ่าตัด: ขั้นตอนและการฟื้นตัว

การรักษามะเร็งผิวหนังด้วยการผ่าตัด: ขั้นตอนและการฟื้นตัว

มะเร็งผิวหนังเป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญในปัจจุบัน โดยเฉพาะในผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำหรือมีประวัติการสัมผัสแสงแดดโดยตรง การรักษามะเร็งผิวหนังด้วยการผ่าตัดเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพสูง และในบทความนี้ เราจะพูดถึงขั้นตอนการผ่าตัดและการฟื้นตัวหลังการรักษาอย่างละเอียดเพื่อให้คุณเข้าใจมากยิ่งขึ้น

ขั้นตอนการผ่าตัด

การผ่าตัดแบบ Mohs (Mohs Surgery) – คำอธิบาย: การผ่าตัดเฉพาะทางสำหรับมะเร็งผิวหนัง เช่น มะเร็งเบซัลเซลล์ (Basal Cell Carcinoma) และมะเร็งสเควมัสเซลล์ (Squamous Cell Carcinoma) – วิธีทำ: นำเนื้องอกออกทีละชั้นและตรวจสอบเนื้อเยื่อภายใต้กล้องจุลทรรศน์จนกว่าจะไม่มีเซลล์มะเร็งเหลืออยู่ – อัตราการกำจัด: 97-99% สำหรับเนื้องอกที่ได้รับการวินิจฉัยครั้งแรก และ 95-96% สำหรับเนื้องอกที่เป็นซ้ำ

การผ่าตัดชิ้นเนื้อ (Wide Excision) – คำอธิบาย: ตัดเนื้องอกและเนื้อเยื่อโดยรอบออก โดยส่วนใหญ่ใช้ยาชาเฉพาะที่ – การตรวจสอบ: ชิ้นเนื้อจะถูกตรวจสอบในแนวตั้งหรือแบบขนมปังแผ่น (Breadloaf sectioning samples)

การผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองเซนติเนล (Sentinel Lymph Node Biopsy – SLNB) – คำอธิบาย: ใช้ตรวจดูว่ามะเร็งเมลาโนมาหรือมะเร็ออื่นๆ แพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองหรือไม่ – วิธีทำ: ใช้การฉีดสารกัมมันตรังสีหรือสีย้อมไปที่บริเวณใกล้เคียงกับที่เป็นเซลล์มะเร็งเพื่อหาต่อมน้ำเหลืองเซนติเนล

การฟื้นตัวหลังการผ่าตัด

การดูแลบาดแผล – ความสำคัญ: ผู้ป่วยจำเป็นต้องดูแลบาดแผลอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันการติดเชื้อและช่วยให้บาดแผลหายเร็วขึ้น

การติดตามผล – คำแนะนำ: ควรติดตามผลการรักษากับแพทย์เป็นประจำ เพื่อตรวจสอบการกลับเป็นซ้ำ และปรับแผนการรักษาให้เหมาะสม

การฟื้นตัวระยะยาว – การฟื้นตัว: สำหรับการผ่าตัดแบบ Mohs มีอัตราการกลับเป็นซ้ำที่น้อย เนื่องจากสามารถตรวจสอบขอบด้านนอกและลึกเกือบ 100% – อัตราการรอดชีวิต: หากได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อัตราการรอดชีวิตใน 5 ปีสำหรับมะเร็งเบซัลเซลล์สามารถอยู่ที่ประมาณ 95% และสำหรับมะเร็งสเควมัสเซลล์อยู่ที่ 99%

การเลือกวิธีการรักษา – ปัจจัยที่พิจารณา: ขนาด ตำแหน่ง และความลึกของก้อนเนื้อ รวมถึงอายุ สุขภาพ และความชอบส่วนตัวของผู้ป่วย

สรุป การรักษามะเร็งผิวหนังด้วยการผ่าตัดต้องอาศัยการวิเคราะห์และวางแผนที่รอบคอบ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และลดโอกาสของการกลับเป็นซ้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นหากคุณเป็นผู้ที่เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนัง ควรจัดการรับการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอและมีการพูดคุยเกี่ยวกับตัวเลือกการรักษากับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ.