การฉายรังสีในผู้ป่วยมะเร็งเต้านม: สิ่งที่ควรรู้
การฉายรังสีถือเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่สำคัญสำหรับผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ซึ่งทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยงในการกลับเป็นซ้ำของโรค โดยเฉพาะหลังการผ่าตัด ในบทความนี้เราจะมาสำรวจถึงขั้นตอนการฉายรังสี ข้อมูลสำคัญ และการดูแลตนเองในระหว่างการรักษา
ขั้นตอนการฉายรังสี
1. การจำลองการฉายรังสี (Simulation)
- ผู้ป่วยสามารถอาบน้ำ, ดื่มน้ำ, และรับประทานอาหารตามปกติ
- หากจำเป็นต้องฉีดสารทึบแสง ผู้ป่วยจะต้องงดน้ำและอาหารอย่างน้อย 6 ชั่วโมง
- การจำลองต้องยกแขนเหนือศีรษะ โดยแนะนำให้ฝึกยกแขนหลังการผ่าตัด
- ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงในการเข้าพบแพทย์และเสร็จสิ้นการจำลอง
2. วางแผนการฉายรังสี
- แพทย์และนักฟิสิกส์จะคำนวณปริมาณรังสีให้มุ่งตรงไปยังก้อนมะเร็ง
- ลดปริมาณรังสีที่จะเข้าถึงเนื้อเยื่อรอบๆ
- ขั้นตอนนี้อาจใช้เวลา 1-3 วัน ขึ้นอยู่กับลักษณะและระยะของมะเร็ง
3. วันนัดฉายรังสี
- ผู้ป่วยต้องมาที่โรงพยาบาลตามวันนัดและนอนบนเตียงในท่าเดียวกับวันที่จำลอง
- เจ้าหน้าที่จะจัดท่าและสื่อสารเพื่อให้ผู้ป่วยหายใจได้ตามปกติ
- การฉายรังสีจะใช้เวลาประมาณ 15 นาที
ความสำคัญและข้อบ่งชี้
- การฉายรังสีหลังการผ่าตัดสามารถช่วยลดการกลับเป็นซ้ำของมะเร็งเต้านม
- ลดอัตราการตายที่เกิดจากโรคมะเร็งเต้านมอย่างมีนัยสำคัญ
ปริมาณและการติดตาม
- ปกติจะฉายรังสี 20-30 ครั้ง, 5 วันต่อสัปดาห์
ผลข้างเคียงที่ควรรู้
- สีผิวเปลี่ยนแปลง: ผิวหนังอาจแดงหรือคล้ำ
- ผิวหนังแห้งหรือคัน รวมถึงอาจแตก
- อาจมีอาการปวด, บวม หรือรู้สึกเจ็บบริเวณเต้านม
- อาการอ่อนเพลียเป็นอาการที่พบบ่อย
- ผลข้างเคียงระยะยาว: พังผืดที่บริเวณแผลผ่าตัดหรือการอักเสบที่ปอด
การดูแลตนเอง
- งดใช้น้ำยาหรือแอลกอฮอล์ที่บริเวณฉายรังสี
- สวมเสื้อผ้าที่โปร่ง ไม่อับชื้น
- หลีกเลี่ยงการทาครีม ยกเว้นเมื่อผิวแห้งมาก และควรปรึกษาแพทย์
- ดื่มน้ำให้มากพอ อย่างน้อย 2 ลิตรต่อวัน
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ทำให้เหงื่อออก
การตรวจติดตาม
- ควรตรวจติดตามทุกสัปดาห์ เพื่อดูผลข้างเคียงจากการรักษา โดยเฉพาะบริเวณผิวหนัง
- หากมีอาการผิดปกติควรเข้าพบแพทย์ทันที
การฉายรังสีในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยการเตรียมการที่ดีและความเข้าใจอย่างชัดเจน เพื่อให้การรักษาประสบผลสำเร็จและมีประสิทธิภาพสูงสุด